W3C
fontsizes fontsizem fontsizel
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์



 
 

โดย สุณี ตั้งในคุณธรรม

         เป็นที่น่าจับตามองการทำธุรกิจซื้อขายปุ๋ยล่วงหน้าในขบวนการสหกรณ์ เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนสหกรณ์ที่ทำธุรกิจปุ๋ยมากขึ้น โดยเฉพาะการทำธุรกิจซื้อขายปุ๋ยล่วงหน้า(ตั๋วปุ๋ย) นับวันจะมีจำนวนและปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขยายเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ย สู่สหกรณ์ สู่กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชนและกลุ่มเกษตรกร



        ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำธุรกิจปุ๋ยของสหกรณ์ เป็นไปตามหลักการสหกรณ์ที่จะดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหกรณ์ ต่อสมาชิกสหกรณ์อย่างแท้จริงและอยู่ภายใต้หลักการบัญชีที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น การศึกษาการทำธุรกิจปุ๋ยของสหกรณ์ ปี 2550 จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสถานะความมั่นคง และสภาพคล่องทางการเงินของสหกรณ์ อันจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์และการประกอบอาชีพสมาชิกสหกรณ์โดยตรง ซึ่ึ่งผลของการศึกษาจะสามารถช่วยให้การวางระบบบัญชีมีความเหมาะสมกับธุรกิจของสหกรณ์อย่างเป็นรูปธรรม สามารถวางแผนการทำธุรกิจปุ๋ยของสหกรณ์เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม และช่วยให้ปรับปรุงการบริหารงานให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการส่งสัญญาณ และให้ข้อแนะนำเพื่อการเฝ้าระวังทางการเงินของสหกรณ์ เป็นการลดความเสี่ยง และป้องกันมิให้เกิดผลเสียหายขึ้น อันจะส่งผลให้ธุรกิจสหกรณ์ คงอยู่ได้ภายใต้สภาวการณ์แข่งขันกับหน่วยธุรกิจอื่น และสามารถให้บริการตอบสนอง ต่อความต้องการของสมาชิกต่อไปโดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นสหกรณ์ที่ทำธุรกิจปุ๋ยทั้งสิ้น 1,418 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตร 1,343 แห่ง สหกรณ์นิคม 44 แห่ง สหกรณ์ร้านค้า 2 แห่ง สหกรณ์ บริการ 18 แห่ง และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 12 แห่ง
        ผลการศึกษา พบว่า สถานะทางการเงินของสหกรณ์ทำธุรกิจปุ๋ย 1,418 แห่ง มีทุนดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 76,274.79 ล้านบาท โดยร้อยละ 64.75 เป็นส่วนหนี้สิน อีกร้อยละ 35.25 เป็นส่วนทุนของสหกรณ์ี มีเงินฝากกับสหกรณ์อื่น 2,299.23 ล้านบาท เฉลี่ย 3.4 ล้านบาทต่อสหกรณ์ ยอดฝากสูงสุด 63.70 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ระหว่างร้อยละ 4-6 สูงสุดร้อยละ 11.00 มีเพียง 1 แห่ง และมีเงินรับฝากของสหกรณ์ อื่น 2,155.40 ล้านบาท เฉลี่ย 4.5 ล้านบาท ต่อสหกรณ์ ยอดเงินรับฝากสูงสุด 50.62 ล้านบาท อััตราดอกเบี้ยเงินรับฝากอยู่ระหว่างร้อยละ 4-6 เช่นกัน สูงสุดร้อยละ 10.00 มีเพียงแห่งเดียวเช่นกัน
        การจัดซื้อปุ๋ยของสหกรณ์ทั้งสิ้น 1,418 สหกรณ์ พบว่า สหกรณ์จำนวน 314 แห่ง หรือร้อยละ 22.14 ไม่มีการสำรวจความต้องการปุ๋ยของสมาชิกก่อนการจัดซื้อ จำนวน 290 แห่ง หรือร้อยละ 20.45 ไม่ผ่านการได้รับการอนุมัติให้จัดซื้อปุ๋ยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ และอีกจำนวน 217 แห่ง หรือร้อยละ 15.30 ได้รับการอนุมัติให้จัดซื้อได้เป็นบางครั้งเท่านั้น ปี 2550 มีปริมาณการจัดซื้อปุ๋ยรวมทั้งสิ้น 7,820.66 ล้านบาท ร้อยละ 65.78 จัดซื้อเป็นสินค้าปุ๋ย 5,144.24 ล้านบาท อีกร้อยละ 34.22 จัดซื้อเป็นสินค้าตั๋วปุ๋ย 2,676.42 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นซื้อเงินสด 2,183.85 ล้านบาท และซื้อเป็นเงินเชื่อ 5,636.80 ล้านบาท พบว่า ปริมาณการจัดซื้อปุ๋ยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยรวม   ร้อยละ 85.10 เมื่อเทียบกับปี 2547 โดยจัดซื้อสินค้าปุ๋ยขยายเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.81 และจัดซื้อสินค้าตั๋วปุ๋ยขยายเพิ่มขึ้นสูงถึง 3.3 เท่าตัว
        สำหรับธุรกิจซื้อขายปุ๋ยล่วงหน้า (ตั๋วปุ๋ย) ของสหกรณ์ พบว่า มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับปี 2547 โดยเพิ่มขึ้นจาก 622.90 ล้านบาท ในปี 2547 ขยายเพิ่มขึ้นเป็น 2,676.42 ล้านบาท ในปี 2550  ขยายเพิ่มขึ้นถึง 3.3 เท่าตัว    โดยเฉพาะปริมาณการจัดซื้อตั๋วปุ๋ยเป็นเงินเชื่อมีอัตราการขยายเพิ่มขึ้น  มากถึง 4.4 เท่าตัว โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 70.00 เป็นการจัดซื้อกับบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ย  และพบว่าบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยส่วนใหญ่ ร้อยละ 53.20ไม่ได้ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล  อีกทั้งตั๋วปุ๋ยที่สหกรณ์ได้รับ พบว่า ร้อยละ 63.26  ไม่มีการระบุชื่อสหกรณ์เป็นผู้ซื้อ หรือไม่มีการโอนสลักหลังชื่อสหกรณ์ผู้ซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ ในรอบปีมีจำนวนสหกรณ์ที่นำตั๋วปุ๋ยไปขึ้นสินค้าปุ๋ยเพียง 122 แห่ง หรือร้อยละ 33.15 เป็นเงิน 1,713.16 ล้านบาท  โดยสถานที่ส่งมอบสินค้าที่ระบุในตั๋วส่วนใหญ่ร้อยละ 62.07 เป็นสถานที่สหกรณ์ระบุ อีกร้อยละ 37.93  เป็นสถานที่ี่คลังสินค้าตามที่       ผู้ขายเป็นผู้ระบุ  ระหว่างปีมีการจำหน่ายตั๋วปุ๋ย 37 แห่ง เป็นเงิน 271.71 ล้านบาท  ส่วนใหญ่ร้อยละ 93.72 จำหน่ายเป็นเงินเชื่อ อีกร้อยละ 6.28 จำหน่ายเป็นเงินสด ส่วนช่องทางการจำหน่ายตั๋วปุ๋ยของสหกรณ์  พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.17 สหกรณ์ดำเนินการจำหน่ายเอง ร้อยละ 24.37 ผ่านบริษัทหรือตัวแทนที่จำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์  อีกร้อยละ 2.44  ทั้งดำเนินการเองและผ่านบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ย  สำหรับผลตอบแทนที่ได้รับจากการจำหน่ายตั๋วปุ๋ยของสหกรณ์ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 44.68  ได้จากส่วนเหลื่อมของราคาซื้อขายตั๋วปุ๋ย  ร้อยละ 27.66  ได้จากรายการ  ส่งเสริมการขายของบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยในรูปแบบต่างๆ   อาทิเช่น ส่วนลดของแถม ค่าคอมมิสชั่น        เงินรางวัล สิ่งของและจัดทัศนศึกษาไปดูงาน 2-3 วัน เป็นต้น และร้อยละ  1.42 ให้เป็นเงินเฉลี่ยคืน การจ่ายชำระหนี้ค่าตั๋วปุ๋ยของสหกรณ์  พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.80   จ่ายชำระหนี้โดยการโอนผ่านธนาคาร ส่วนการรับชำระหนี้ค่า  ตั๋วปุ๋ยของสหกรณ์ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 46.53  รับชำระหนี้โดยโอนผ่านธนาคารเช่นกัน  รองลงมาร้อยละ 41.58 รับชำระหนี้เป็นเงินสด   ในรอบปีสหกรณ์มีการรับคืนตั๋วปุ๋ย 7 แห่ง เป็นเงิน 24.63 ล้านบาท และส่งคืนตั๋วปุ๋ย 13 แห่ง เป็นเงิน 27.18 ล้านบาท  สิ้นปีสหกรณ์มีเจ้าหนี้การค้าตั๋วปุ๋ย 66 แห่ง  เป็นเงิน 646.74 ล้านบาท   และมีลูกหนี้การค้าตั๋วปุ๋ย 21 แห่ง เป็นเงิน 165.73 ล้านบาท  สหกรณ์มีสินค้าปุ๋ยคงเหลือต้นปี 688.12 ล้านบาท  คงเหลือปลายปี 829.37 ล้านบาท  เป็นผลต่างที่เพิ่มขึ้น 141.25 ล้านบาท และเป็นสินค้าตั๋วปุ๋ย คงเหลือต้นปี 608.57 ล้านบาท คงเหลือปลายปี 829.37 ล้านบาท   เป็นผลต่างที่เพิ่มขึ้น 220.80  ล้านบาท
         นอกจากนี้ผู้สอบบัญชีสหกรณ์ยังมีข้อสังเกตการทำธุรกิจซื้อขายปุ๋ยล่วงหน้าของสหกรณ์หลายแง่มุมอาทิเช่น ไม่ได้บันทึกรายการซื้อขายในระบบบัญชีของสหกรณ์หรือบันทึกซื้อสินค้า ตั้งเจ้าหนี้ตามใบกำกับสินค้า โดยไม่ระบุว่าเป็นการส่งมอบตั๋วปุ๋ย   โดยสหกรณ์เซ็นต์รับในใบกำกับสินค้าเสมือนเป็นการรับมอบสินค้าปุ๋ยแล้ว ไม่มีการทำสัญญาซื้อขาย   มีการซื้อผ่านสหกรณ์หนึ่งไปยังอีกสหกรณ์หนึ่ง   บริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยให้สหกรณ์หนึ่งภายในวงเงินของอีกสหกรณ์หนึ่งโดยมิได้จัดทำสัญญาซื้อขาย  และบางสหกรณ์เป็นตัวแทนจัดหาลูกค้าปุ๋ยให้กับบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายปุ๋ย โดยให้บริษัทกู้ยืมเงินดำเนินธุรกิจ เป็นต้น
         สำหรับข้อเสนอแนะที่ได้จากผลการศึกษา   คือ ควรมีการกำหนดระเบียบว่าด้วยการทำธุรกิจซื้อขายล่วงหน้า ควรมีคู่มือในทางปฏิบัติเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน ผู้บริหารสหกรณ์ต้องรู้และเข้าใจการทำธุรกิจซื้อขายล่วงหน้าอย่างถ่องแท้  เพื่อการลงทุนที่คุ้มค่า  ปลอดภัย  ให้ผลตอบแทนสูง   และมีระบบบัญชีที่ถูกต้องโปร่งใส เหมาะสมกับธุรกิจ ต้องบริหารความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่จะได้รับ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสหกรณ์อย่างแท้จริง ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องคำนึ่งถึงประโยชน์ที่จะเกิดแก่สมาชิกสหกรณ์เป็นหลัก

ข่าว/บทความยอดนิยม ข่าว/บทความที่คะแนนโหวตสูงสุด ข่าว/บทความล่าสุด
Learning English : ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (22/03/2550)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) ของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรปี 2555
วิกฤตเศรษฐกิจกระทบเศรษฐกิจสหกรณ์ออมทรัพย์หรือไม่ อย่างไร...
บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพช่วยเกษตรกรเรื่องภาษีได้
ผู้สอบบัญชีสหกรณ์มีบทบาทและหน้าที่ในการป้องกันและตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างไร
เสถียรภาพทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ปี 2556
ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรไทย ปี 2549 (28/03/2550)
กฎหมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Law)
“ขนิษฐา มะโนสมบัติ”ครูบัญชีอาสา จังหวัดเชียงรายใช้ศาสตร์พระราชานำทางชีวิต พลิกวิกฤตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
มิติทางการเงินที่มีผลต่อหนี้สินของสหกรณ์ประมงในประเทศไทย
สถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสหกรณ์ออมทรัพย์ และแนวโน้ม ปี 2568
สถานการณ์การค้าข้าวไทยและการรวบรวมผลิตผลข้าวเปลือกของภาคสหกรณ์์ไทยปี 2567
สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่มีส่วนขาดแห่งทุน
หนี้ที่ชำระไม่ได้ตามกำหนด/NPL ภาคสหกรณ์ไทย ในไตรมาส 2/2567
สุขภาพทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์
จำนวนคนอ่าน 10336 คน จำนวนคนโหวต 9 คน

  จำนวนคนโหวต 9 คน
โหวตคะแนนให้ข่าว/บทความนี้
1 2 3 4 5

  ระดับ 

  ให้ 1 คะแนน
0%
  ให้ 2 คะแนน
 
11%
  ให้ 3 คะแนน
 
11%
  ให้ 4 คะแนน
 
22%
  ให้ 5 คะแนน
 
56%
เกี่ยวกับเรา
  • ประวัติ
  • อาคารอนุรักษ์
  • ทำเนียบอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • ผังโครงสร้างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์
  • วิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าหมาย
  • ค่านิยมหลัก
  • วัฒนธรรมองค์กร
  • ทำเนียบ / สถานที่ตั้ง

  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สงวนลิขสิทธิ์ 2559 - กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 12 ถนนกรุงเกษม แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    ศูนย์บริการประชาชน (Call Center) 0 2016 8888 โทรสาร 0 2282 0889
     

    Valid HTML 4.01 Transitional

    การแสดงผลหน้าเว็บไซต์จะสมบูรณ์ที่สุดสำหรับ Google Chrome และ Internet Explorer ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 650 pixel